ระบบสีสำหรับโรงพิมพ์

โรงพิมพ์ ในทุกวันนี้ใช้สีสันในการพิมพ์เอกสารต่างๆ ถือเป็นอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะทำให้เอกสารที่เราสั่งพิมพ์แล้วนั้นดูมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น น่าอ่าน น่าสนใจนั่นเอง

อย่างไรก็ตามนั้นหลายคนก็ไม่มีใครที่ไม่เคยพิมพ์รูปออกมาจากเครื่องพิมพ์กันเลยนะครับแต่หลายคนก็คงประสบกับปัญหาภาพที่พิมพ์ออกมานั้นก็จะมีสีที่ผิดเพี้ยนไปจากต้นฉบับไปนั่นเอง ซึ่งหลายคนก็คงจะมีคำถามอยู่ในใจเหมือนกันนะครับว่าทำไมผลงานที่พิมพ์ออกมานั้นทำไมถึงไม่ได้ตามที่ต้องการ วันนี้ก็จะมาอธิบายเหตุผลปัญหาต่างๆ ในเรื่องระบบสีที่ใช้กันในปัจจุบันเสียก่อน

ระบบสี

          ระบบสีเป็นระบบสีของแสง ที่เกิดจากการหักเหของแสงที่ผ่านมาแท่งแก้วปริซึม ซึ่งก็จะเกิดแถบสีที่เรามักเรียกกันว่า สีรุ้ง โดยถ้าหากใช้สายตามองนั้นก็จะมองเห็นได้ 7 สี คือ “แดง แสด เหลือง เขียว น้ำเงิน คราม ม่วง ” แสงสีม่วงนั้นจะมีความถี่คลื่นสูงที่สุดนั่นเอง ส่วนสีแดงนั้นก็จะมีความถี่คลื่นต่ำที่สุด โดยรวมๆ แล้วนั้นถ้าหากเราทำการศึกษามาแสงสีทั้งหมดก็จะเกิดจากแสงสี 3 สีด้วยกัน โดยจะเป็นสีแดง สีน้ำเงิน และ สีเขียว

ระบบสีสำหรับโรงพิมพ์

เมื่อนำสีมาฉายรวมกันก็จะเกิดสีใหม่คือ สีแดงมาเจนต้า สีฟ้าไซแน และ สีเหลือง แล้วถ้าหากมารวมกันอีกก็จะได้เป็นสีขาว โดยแสงพวกนี้แหละก็จะนำมาใช้ประโยชน์ในการฉายภาพยนตร์ บันทึกวีดีโอ นั่นเอง ส่วนระบบสี ซีเอ็มวายเค นั้นเป็นระบบสีชนิดที่เป็นวัตถุ คือ สีแดง เหลือง น้ำเงิน โดยระบบสีนี้นั้นก็จะเป็นการผสมสีกันเองของแม่สีในระบบ อาร์จีบี โดยระบบการพิมพ์แบบ ซีเอ็มวายเค นั้นก็จะเป็นระบบการพิมพ์ที่ทันสมัยที่สุด และได้ภาพที่ใกล้เคียงมากที่สุด

         โดยส่วนใหญ่แล้วนั้นก็จะนิยมนำระบบนี้มาใช้กันในด้านงาน โรงพิมพ์กล่อง เป็นต้น เพราะมันใกล้เคียงกับของจริงเป็นอย่างมาก สีพิเศษ หรือ เพนโทน นั้นระบบสีแบบนี้นั้นถ้าหากลูกค้าสั่งก็จะได้สีตามความต้องการของลูกค้าได้เลย เพราะจะมีความแม่นยำกว่า ซีเอ็มวายเค เป็นอย่างมาก โดยการออกแบบนั้นผู้ออกแบบสามารถที่จะกำหนด Pantone โดยการบอกแค่รหัสสีให้กับโรงพิมพ์ เพียงเท่านี้โรงพิมพ์ก็จะสามารถที่จะเรียมพิมพ์ได้ตามที่เราต้องการได้เลย

สีเมทัลลิก จะมีลักษณะเป็นสีวาวแบบโลหะ ทำให้สีที่ได้มานั้นเกิดความประกายสว่างเกิดการสะท้อนแสงที่เหมือนกับลักษณะกับกากเพชร

เพิลเลสเซน นั้นก็จะมีส่วนผสมของมุกที่จะสีที่เหลือบเงาตามมุมแสงที่จะกระทบ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วนั้นก็เห็นได้ตามกล่องที่ใส่เครื่องสำอางนั่นเอง